เกม บาคาร่า ยอดฮิต เล่นจริง จ่ายจริง อย่าง megagame66 เว็บคาสิโนออนไลน์ยอดฮิตแห่งปี เว็บคุณภาพ บริการเกมส์คาสิโนออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เกมบาคาร่า แบล็คแจ็ค รูเล็ต ไฮโล หรือไพ่เสือมังกร บริการด้วยความโปร่งใสมั่นใจในคุณภาพที่มาพร้อมแสง สี เสียง ภาพคมชัด พร้อมมีการถ่ายทอดสดคาสิโนสดจากต่างประเทศแทงได้ตลอดเวลา ภาพไหลลื่นไม่มีสะดุด เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา มีบริการฝากถอนเงินอัตโนมัติ ฟรีค่าธรรมเนียม เพียงสแกน QRcode ผ่าน แอปพลิเคชั่นมือืถอ สมัครสมาชิกวันนี้รับฟรีเครดิต 120%
เกม บาคาร่า คืออะไร
“บาคาร่า” เป็นเกมส์ที่มีลักษณะคล้ายกับป๊อกเด้ง ต่างกันตรงที่ผู้เล่นไม่ต้องถือไพ่เอง แต่จะเป็นการเดิมพันว่าระหว่างเพลย์เยอร์หรือแบงค์เกอร์ใครจะเป็นฝ่ายชนะ โดยรูปแบบการเดิมพันนั้นสามารถทายได้ว่าฝั่งเพลย์เยอร์และแบงค์เกอร์ฝ่ายใดจะชนะ หรือทายว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกัน หรือแม้กระทั่งทายว่าจะชนะแบบคู่ หรือป๊อก ซึ่งกติกาคร่าวๆ ของเกมส์คือเจ้ามือจะทำการแจกไพ่ให้ทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายละ 2 ใบ จากนั้นทำการเปิดไพ่และรวมผลตัวเลข หากใครได้ไพ่เข้าใกล้ 9 มากที่สุด ฝ่ายนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ
ทั้งนี้ หากแต้มไม่ถึงสามารถจั่วไพ่เพิ่มได้อีก 1 ใบ โดยมีกติกาเพิ่มเติมซึ่งจะอธิบายในหัวข้อถัดไป บาคาร่าเป็นเกมส์ออนไลน์ที่นิยมเล่นเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ดังนั้นการเลือกเว็บไซต์ที่จะเล่นนั้นมีส่วนสำคัญต่อการเล่นเป็นอย่างมาก ท่านต้องทำการเลือกเว็บที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย โดยเว็บ ของเรานั้นเป็นเว็บที่ขึ้นชื่อเรื่องความมั่นคง โปร่งใส เรามีสมาชิกกว่าสองแสนคนและมีเงินไหลเวียนวันละกว่าล้านบาท
ดังนั้นจึงสามารถมั่นใจได้เลยว่าเว็บของเรานั้น เล่นได้จ่ายเงินจริงแน่นอน ตลอดจนมีความปลอดภัยในการเล่น เพราะเราคำนึงความปลอดภัยข้อมูลของผู้เล่นเป็นสิ่งสำคัญ หากท่านกำลังมองหา เว็บ บาคาร่า ต้องที่นี่เท่านั้น
วิธีการเล่นบาคาร่า
ในการเล่นบาคาร่านั้นเริ่มจากการที่ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้ 2 ฝ่ายโดยจะแจกให้ฝ่ายเพลย์เยอร์ก่อน จากนั้นจึงแจกให้แบงค์เกอร์จนครบฝ่ายละ 2 ใบ เมื่อได้ไพ่ครบแล้วดีลเลอร์จะทำการเปิดไพ่ ซึ่งไพ่ของบาคาร่าในแต่ละใบนั้นจะมีค่าตามนี้ A = 1, 2-9 มีค่าตามตัวเลข และไพ่ 10 J Q K มีค่าเท่ากับ 0 โดยหลักการในการรวมไพ่นั้นจะนับผลตัวเลขเฉพาะหลักหน่วยเท่านั้นโดยมีตัวอย่างดังต่อไปนี้
- เปิดไพ่ได้เลข 7, 9 ผลรวมเท่ากับ 16 แต้มเท่ากับ 6
- เปิดไพ่ได้ A, 4 ผลรวมเท่ากับ 5 แต้มเท่ากับ 5
- ได้ไพ่ J, K ผลรวมเท่ากับ 0 แต้มเท่ากับ 0
- ได้ไพ่ K, 3, Q ผลรวมเท่ากับ 3 แต้มเท่ากับ 3
กติกาการเรียกไพ่ใบที่สาม
ถึงแม้ว่าเกมบาคาร่าจะคล้ายกับป็อกเด้งที่เราเคยเล่นกันมาก่อน แต่ว่ากฎของการจั่วไพ่ใบที่ 3 นั้นต่างออกไป หลายคนที่ไม่รู้กฎนี้จะคิดว่าเจ้ามือโกง เพราะว่าบางทีเจ้ามือได้ 5 แต้มแล้วแต้มน้อยกว่าผู้เล่น แต่ก็ยังเรียกไพ่เพิ่ม หรือว่าเลือกจั่วไพ่เอาเองตามใจชอบ ที่จริงแล้วมันมีกฎในการเรียกไพ่ที่ 3 ที่คนแจกไพ่ (ดีลเลอร์) จะเป็นคนพิจารณาจากผลคะแนนรวม แล้วนำไปเทียบกับกติกาการเรียกไพ่เพิ่ม ดังนี้
การเรียกไพ่ใบที่สามของฝั่งผู้เล่น (Player)
- เมื่อไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นมีแต้มรวมกันได้ 0 , 1 , 2 , 3 , 4 หรือ 5 แต้ม ต้องทำการเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม
- เมื่อไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นมีแต้มรวมกันได้ 6 – 7 แต้ม ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่สาม
- และเมื่อไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นมีแต้มรวมกันได้ 8 – 9 แต้ม เกมจะจบทันที ไม่มีสิทธิ์เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่มทั้งสองฝั่ง
การเรียกไพ่ใบที่สามของฝั่งเจ้ามือ (Banker)
การเรียกไพ่ใบที่สามของฝั่งเจ้ามือจะมีรายละเอียดเยอะกว่าฝั่งผู้เล่น คือจะดูจากผลรวมของไพ่สองใบแรกของเจ้ามือ เทียบกับไพ่ใบที่สามของผู้เล่น ดังนี้
- กรณีไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือมีแต้มรวมกัน 3 แต้ม แต่ทางฝั่งผู้เล่นมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 แล้วได้เลข 8 เกมจะหยุดทันทีถึงแม้ว่าทางฝั่งเจ้ามือจะมี 3 แต้มก็ไม่สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้
- กรณีไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือมีแต้มรวมกัน 4 แต้ม แต่ทางฝั่งผู้เล่นมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 แล้วได้เลข 0 , 1 , 8 , 9 เกมจะหยุดทันที ถึงแม้ว่าทางฝั่งเจ้ามือมี 4 แต้มก็ไม่สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้
- กรณีที่ไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือมีแต้มรวมกัน 5 แต้ม แต่ทางฝั่งผู้เล่นมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 แล้วได้เลข 0 , 1 , 2 , 3 , 8 , 9 เกมจะหยุดทันทีถึงแม้ว่าทางฝั่งเจ้ามือมี 5 แต้มก็ไม่สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้
- กรณีที่ไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือมีแต้มรวมกัน 6 แต้ม แต่ทางฝั่งผู้เล่นมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 แล้วได้เลข 0 , 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 8 , 9 เกมจะหยุดทันทีถึงแม้ว่าทางฝั่งเจ้ามือมี 6 แต้มก็ไม่สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้
- เมื่อไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือมีแต้มรวมกัน 7 แต้ม ไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม
- เมื่อไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือมีแต้มรวมกัน 8 – 9 แต้ม เกมจะจบทันที ไม่มีสิทธิ์เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่มทั้งสองฝั่ง
อัตราการจ่ายเงิน
- ทายว่าเพลย์เยอร์ชนะ แล้วเพลย์เยอร์แต้มสูงกว่าแบงค์เกอร์จริง เช่น P = K,9 / B = K,8 อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:1 หากท่านเดิมพันลงเงิน 100 จะได้เงิน 200 รวมเงินทุน
- ทายว่าแบงค์เกอร์ชนะ แล้วแบงค์เกอร์แต้มสูงกว่าเพลย์เยอร์จริง เช่น B = K,9 / P = K,8 อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 1:0.95 หากเดิมพัน 100 ท่านจะได้เงิน 195 รวมทุน
- ทายว่าเสมอ คือเพลย์เยอร์และแบงค์เกอร์แต้มเท่ากัน เช่น P =4,4 / B = 6,2 อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:8 เดิมพัน 100 บาท ท่านจะได้รับเงิน 900 บาท รวมเงินทุน แต่หากคิดแต่กำไรที่ท่านได้ก็จะเท่ากับ 800 บาท
- หากทายว่า เพลย์เยอร์หรือแบงค์เกอร์ จะชนะด้วยไพ่คู่ที่เหมือนกัน เช่น ไพ่ 9,9 / 4,4 / 8,8 หากผลออกตามตัวอย่างนี้ ท่านจะได้อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:11 ดังนั้นถ้าเดิมพัน 100 ท่านจะได้รับเงิน 1,200 บาท รวมทุน หากคิดแต่กำไรที่ท่านได้ก็จะเท่ากับ 1,100 บาท
- หากทายว่าฝ่ายเพลย์เยอร์หรือแบงค์เกอร์ฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะชนะด้วยไพ่ป๊อก เช่น K,9 / Q,8 หากผลออกตามตัวอย่างนี้ ท่านจะได้อัตราการจ่ายอยู่ที่ 2:7 หมายความว่า ถ้าเดิมพัน 200 จะได้เงิน 900 บาท รวมทุน ซึ่งหากคิดแต่กำไรที่ท่านได้ก็จะเท่ากับ 700 บาท